สวัสดีครับเพื่อนๆ ชาว BMX วันนี้เราจะมาแนะนำเกี่ยวกับเรื่องราวของแบรนด์จักรยานที่ โด่งดังที่สุด แทบจะบอกได้ว่า เป็นแบรนด์ในฝันของวัยรุ่นยุค 90 เลยก็ว่าได้ และเป็นแบรนด์ที่มีความดังที่สุดในช่วงยุคเริ่มต้น ประเภทฟรีสไตล์ ซึ่งตอนที่ผมยังเด็กๆ ก็มักจะได้ยินชื่อของจักรยาน BMX ฮาโร่อยู่บ่อยๆ ซึ่งถ้าทุกคนที่สนใจจักรยาน BMX ในยุคนั้นถึงแบรนด์นี้นั่นก็อาจจะเพราะว่า แบรนด์ Haro BMX นั้น มีความดังสุดๆ ไปเลยในสมัยนั้น และยังทรงอิทธิพลมาจนถึงยุคปัจจุบัน
ถามว่าทำไมถึงยังทรงอิทธิพล ก็เพราะว่า ยังมีเหล่านักปั่นจักรยาน BMX นักสะสม ตามหาอะไหล่ของ แบรนด์นี้อยู่ เพิ่มติมในคำว่าทรงอิทธิพลคือ หมายถึง มีการสะสม มีการตามหา ของเหล่านักสะสม และราคาก็พุ่งไปอีกหลายเท่าตัว ไม่ใช่ด้วยเทคโนยีที่ล้ำสมัย แต่ในมุมมอง ผมมองว่ามันเป็นความคลาสสิก มีเสน่ห์ กลิ่นอายการออกแบบซึ่งสื่อถึงยุคนั้นๆ อารมณ์คล้ายๆ กับรถคลาสสิก หรือรถแนว JDM ยุค 90
บริษัทก่อตั้งขึ้นในปี 1978 โดย Bob Haro ซึ่งเริ่มต้นจากการผลิตป้ายเพลทนสำหรับจักรยาน BMX ในบ้านของเขาซึ่งน่าจะเป็นโรงรถข้างบ้าน ในเวลาต่อมาความต้องการแผ่นเพลทติดจักรยาน BMX เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว มันเยอะเกินความสามารถเพียงคนเดียวของเขา ซึ่งไม่สามารถผลิตได้ตามความของการของลูกค้าในสมัยนั้นได้
จึงทำให้เกิดการจัดตั้งนี้บริษัทขึ้นมา
Haro Designs ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 1980 โดยมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่เมืองทอร์รันซ์ รัฐแคลิฟอร์เนีย
เมื่อบริษัทเริ่มเติบโตขึ้น Haro BMX ยังมีส่วนที่ช่วยในการพัฒนาวงการ BMX Freestyle อีกด้วย Bob Haro เดือนทางไปทั่ว สหรัฐอเมริกา เพื่อสาธิตการเล่นจักรยาน BMX Freestyle ในเทคนิคที่ไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน เรียกได้ว่าเป็นสิ่งที่ว้าวมาก สำหรับวงการ BMX Freestyle สมัยนั้น และทำให้ชื่อเสียงของเขาเริ่มโด่งดัง จนทำให้ Bob Haro ได้รับฉายาว่าเป็น “บิดาแห่งวงการ BMX Free Style”
ในช่วงปี 1980 เป็นช่วงที่บูมมากๆ ของจักรยาน BMX Free Style บริษัทของเขาได้เพิ่มในส่วนสายการผลิตภัณฑ์มากขึ้น และมีการขยายสาขาของร้าน และมีตัวแทนจำหน่ายอีกมากมาย ทั้งในประเทศและต่างประเทศ
ซึ่งในช่วงนี้เอง บริษัท ก็พัฒนาในส่วนของ จักรยาน BMX Free Style และอะไหล่ของ BMX ที่เป็นที่นิยมที่สุด นั้นคือ Haro Master and the sport
Haro BMX ในช่วงปี 1983–1988 ขึ้นชื่อในเรื่องของนวัตกรรมจักรยานที่ไม่เหมือนใคร
Haro เปิดตัวกลุ่มผลิตภัณฑ์จักรยาน Freestyle BMX ที่ประสบความสำเร็จเป็นครั้งแรกในปี 1983
Haro Master เป็นจักรยาน BMX เรือธงของบริษัท ที่ปฏิวัติวงการของการออกแบบจักรยาน BMX ในสมัยนั้นโดยสิ้นเชิง ซึ่งนำหน้าบริษัทอื่นๆไปมาก ซึ่งทำให้รายได้ในปีนั้นๆ ของการขายจักรยาน BMX Haro พุ่งขึ้นสูง
ทำให้บริษัทจักรยานอื่นๆ ออกแบบมาคล้ายกันกับจักรยานของทางแบรนด์ Haro เพื่อเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาด (เอาง่ายๆ คือ Haro ทำแล้วจักรยานดีไซน์สวย ขายดี บริษัทอื่นๆ ทำดีไซน์ตามแล้วออกมาขาย ง่ายดี ฮ่าๆ)
ในปี 1984 บริษัทได้เพิ่มการผลิตจักรยานประเภท Freestyle /Street/Track (The Haro FST) ในกลุ่มผลิตภัณฑ์สำหรับผู้บริโภคที่มีงบประมาณต่ำ ทำให้ Haro BMX ประสบความสำเร็จมากในปีนั้น
ในช่วงทศวรรษที่ 80 GT กลายเป็นคู่แข่งที่แข็งแกร่งที่สุดของ Haro อย่างไรก็ตาม เนื่องจากผลกำไรมหาศาลของ จักรยาน BMX Haro รุ่น Master ยอดขายของ GT จึงลดลงเมื่อเปรียบเทียบกัน
Haro ครอบครองทีมฟรีสไตล์ที่ดีที่สุดซึ่งครองยุค 80, 90 และ 2000 ได้รับรางวัลชนะเลิศอันดับหนึ่งและได้รับเกียรติยศสูงสุดมากกว่าทีมจักรยานยนต์รายอื่นๆ
ในปี 1988 Bob Haro ขายกิจการของ Haro ออกไปให้กับนักลงทุนอื่น แต่ยังคงทำสัญญาในฐานะผู้ให้คำปรึกษา เป็นระยะเวลา 5 ปี หลังจากนั้น Bob Haro ก็ออกจาก Haro Bike ซึ่งในส่วนนี้ทำให้กลิ่นอาย หรือแนวคิดของ Haro แบบเดิมเปลี่ยนไปยอดขาย จึงลดลงเป็นอย่างมาก
ต่อมาในปี 1993 บริษัทถูกขายต่ออีกครั้งให้กับกลุ่มนักลงทุน นำโดย Jim Ford ซึ่งเขาได้นำแนวคิดเดิมของ Bob Haro มาใช้พร้อมทั้งนำระบบต่างๆ เข้ามาพัฒนาในองค์กรใหม่ เรียกได้ว่านำแนวคิดดั้งเดิมของแบรนด์มา และจัดระบบการจัดการใหม่หมด ทำให้ภายในระยะเวลา 1 ปี Haro BMX ก็กลับมา และสามารถสร้างฐานตัวแทนจำหน่ายใหม่ๆ และจัดตั้งทีมแข่งขึ้น โดยมีนักขี่จักรยาน BMX Freestyle ดาวรุ่งชื่อดังอย่าง Dave Mirra และ Ryan Nyquist มาร่วมทีมด้วย ซึ่งทั้ง 2 คนนี้ยังคงเป็น ตำนาน BMX มาจนถึงปัจจุบันสำหรับสายฟรีไสตล์
การสร้างชื่อเสียงของ Haro กลับมาโด่งดังอีกครั้ง
ในปี 1999 Haro BMX กลับมาสร้างชื่อเสียงอีกครั้งในด้านนวัตกรรมและประสิทธิภาพ ยอดขายก็ถล่มทลาย ทวงคืนตำแหน่งแบรนด์ชั้นนำของ จักรยาน BMX ได้อย่างสวยงาม
ในปัจจุบันนั้น 2022 นั้นผมยังไม่ค่อยเห็นความโดดเด่นของแบรนด์สักเท่าไหร่ในเรื่องของนวัตกรรมของอะไหล่จักรยาน
ความโดนเด่นที่ผมเห็นมากที่สุดคือ ทีมนักปั่นของทางค่าย Haro
นั่นคือ Chad Kerley หรือทาง Matthias Dandois
ซึ่งนั่งปั่นทั้ง 2 คนเป็นนักปั่นระดับโลกอยู่แล้ว ซึ่งทาง Haro BMX ดึงมาเข้าทีมในภายหลัง ไม่ได้ปั้นมาตั้งแต่ยังเป็นดาวรุ่ง ซึ่งเข้าใจได้ว่าเป็นไปตามกลไกของการตลาด
เพราะว่าทั้งนักปั่นทั้ง 2 คน ได้ออกแบบผลิตภัณฑ์ร่วมกับทาง Haro เป็น Frame BMX Signature ของโปรทีมทั้ง 2
ปล.หากในรายละเอียดของประวัติความเป็นมาของทาง Haro BMX ผิดพลาดตรงไหน เพื่อนๆ สามารถคอมเม้นหรือส่งข้อความเข้ามาได้เลย เพื่อปรับปรุงเนื้อหาให้ดียิ่งขึ้น