จักรยานสีดำ – Terry Aundams

สวัสดีครับ ผม อั๋น [เทอรี่ อั๋นดำ] สัตยา ธิโสภา กับเรื่องราวของผมกับจักรยานที่ผมรักที่สุด นั่นคือ จักรยาน BMX ผมเริ่มสนใจจักรยาน BMX มาตั้งแต่ช่วง มัธยมต้น ซึ่งก่อนหน้านี้ผมเล่น สเก็ตบอร์ด มาได้ประมาณ 2 ปี ที่ขอนแก่น เล่นกันที่บึงแก่นนคร ซึ่งดูแล้วอาจจะไม่สิ่งที่ชอบที่สุด เลยหันมาสนใจทางด้านจักรยานแทน จักรยาน BMX ประเภทที่ผมสนใจในตอนแรกเลย คือ BMX Flatland ตอนนั้นผมยังไม่มีจักรยานเป็นของตัวเองเลย ราคาจักรยานในตอนนั้น แทบได้ว่าแพงงง ถึงแพงมากๆ เกินกว่าเด็กมัธยมต้นอย่างผมจะซื้อได้

ช่วงแรกที่สนใจนั้น ผมก็ได้ไปสิงอยู่ที่เว็บบอร์ดที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับจักรยาน BMX ทุกประเภท นั่นคือ www.thaibmx.com ซึ่งมีพี่ต้องเป็นผู้ดูแลอยู่ อยากจะขอบคุณพี่เขามากเลยที่เปิดเว็บไซต์นี้ ให้ผมได้รับความรู้ต่างมากมายเกี่ยวกับ BMX เริ่มแรกเริ่มจาก ศึกษาชิ้นส่วนของอะไหล่จักรยานแต่ละชิ้น เรื่ององศาต่างๆ เรื่องน้ำหนัก วัสดุที่ใช้ทำ จากนั้นค่อยมาศึกษาท่าต่างๆ ที่ใช้เล่นกัน ค้นหานักกีฬาที่เราคิดว่าชอบ หรือเอาเป็นแนวทางของเราว่า เอ้อออ เราจะเล่นสไตล์ประมาณนี้แหละ เราชอบคนนี้เล่น ค่อยๆ เก็บคลิปวิดิโอมาศึกษาเรื่อยๆ

[adsense]

หลังจากนั้นก็เริ่มซื้ออะไหล่มาเก็บไว้เป็นบางส่วน ซึ่งส่วนมาก จะเป็นอะไหล่มือสองซะมากกว่า เพราะว่าเราน่าจะพอหยิบจับได้ จนกระทั่งประกอบรถเสร็จ ใช้งบประมาณไปประมาณ เกือบ 2 หมื่นบาท ผมใช้เวลา 1 ปี ในการเก็บตังซื้อจักรยานคันแรก และได้รับความอนุเคราะห์จากรุ่นพี่ Pyranya ซึ่งตอนนี้เปลี่ยนชื่อมาเป็น CMTY (Cemetery) เลยได้ประกอบจักรยาน จนเสร็จสมบูรณ์ ผมใช้เวลาฝึกซ้อมในแต่ละวันประมาน 2-3 ชั่วโมงหลังจากเลิกเรียน แต่การซ้อมของผมนั้น ติดอยู่ที่ระยะทาง บ้านผมนั้นไกลจากที่เล่นมากๆ แต่ยังดีมีรุ่นพี่ ชื่อพี่บี้ Arabe ที่คอยรับส่งผมอยู่ตลอด เพราะเล่นประเภทเดียวกัน บางวันที่ไม่ได้ไปปั่นจักรยานกับกลุ่มพี่ๆ CMTY ก็จะซ้อมที่บ้านคนเดียว เพราะว่าหน้าบ้านผมนั้นเป็นลานคอนกรีตพอได้ซ้อมอยู่บ้าง

ค่อยเริ่มเล่นมาเรื่อย ณ ตอนนั้นที่อุดร มีแต่คนที่เล่นประเภท สตรีท เลยเป็นเรื่องยากที่จะสอนแฟลตเลนให้เด็กใหม่อย่างผมด้วย ผมจึงเริ่มศึกษาจากวิดิโอต่างๆ บน Youtube ซึ่งมีนักขี่ระดับ Professional ต่างๆ มากมาย แต่คนที่ผมชอบที่สุดคือ Matthias Dandois เพราะว่าทักษะ ลีลาการเล่นของเขา พริ้วๆ มาก สไตล์การเล่นที่แตกต่างจากคนอื่น ท่วงท่าที่แข็งแรง การ Combo ที่ไหลลื่น ผมให้เขาเป็นอันดับ 1 ในใจเลย ส่วนคนต่อมาคือ Terry Adams ผมชอบการเล่นล้อหลังของเขามาก Balance ของเขาเนี่ย อย่างเหนือชั้น ด้วยการ ขึ้นคร่อมบนแฮนด์จักรยานแล้วปั่นไป สุดๆจริง และชื่อของผมนั้นถ้าเป็นภาษาอังกฤษคือ Aun เลยเอามาผสมๆ รวมกันเป็น Terry Aundams (เทออรี่ อั๋นดำ) ซึ่งชื่อนี้ไม่ได้โยงถึงเรื่องสีผิวแต่อย่างใด


ผมซ้อมได้ประมาณ 2 ปีก็เลยอยากจะลองแข่งขัน ซึ่งสนามที่ผมเริ่มแข่งขันคือ สนามเก็บคะแนนชิงแชมป์ประเทศไทย ผมลงแข่งรุ่น Amature หรือรุ่นสมัครเล่นนั่นเอง ตอนนั้นผมเดินทางไปแข่งตัวคนเดียว นักปั่น รู้จักก็มีพี่ตูน ภาคภูมิ, พี่ปิ๊ง ฉัตร เฉลิม,พี่บูม วรวีย์ , พี่กล้วย โคราช ที่เล่นประเภทแฟลตแลน แต่ผมไม่ได้รู้จักเป็นการส่วนตัว เพียงแค่ได้เห็นพี่เขาจากเว็บบอร์ด Thaibmx.com เท่านั้นเอง

ถ้าระดับมืออาชีพในไทยแล้ว ผมชอบสไตล์การเล่นของ พี่ปิ๊ง Badger มากเลยมันเป็นอะไรที่ว้าวมาก ในการแข่งขันสนามนั้น ผมได้รับรางวัลเหรียญเงิน โอ้วววว ผมดีใจมากๆ เลย ผมคิดว่าตอนนั้นผมน่าจะได้คะแนนเยอะจากท่า Mega Spins, Time Machine และทีเด็ดของผมก็คือ Decade นั่นเป็นท่าประจำเด็ดตัวผมเลย ผมชอบท่านี้มากๆ เกือบจะไข่แตกเพราะท่านี้ด้วย ฮ่าาา [ไม่ได้หลงตัวเองนะครับ แค่ภูมิใจที่ตัวเองทำได้]

จากนั้นผมก็ค่อยๆ เริ่มเพิ่มเติมอะไหล่ไปทีละนิดละหน่อย จนในที่สุด ผมเกิดอยากจะลองผสมผสานเป็น Freestyle คือ Flatland Street มาด้วยกัน ผมจึงได้เปลี่ยนเฟรมจักรยานของผมเป็นของ BMX Street ซึ่งเฟรมที่ผมเลือกใช้เป็นเฟรม Subrosa แต่จำชื่อรุ่นไม่ได้ เพราะว่ามันนานมาเลย ฮ่าา

จากจักรยานผมเริ่มตอนแบบนี้

เปลี่ยนมาเป็นแบบนี้

และสุดท้ายมาเป็นแบบนี้

ฮ่าา เป็น BMX Street ไปเลย ซึ่งช่วงที่ผมใช้เฟรมแฟลตแลนอยู่นั้น ผมก็ใช้ฝึกท่า Street อยู่บ้างเช่น 180, 360, grind,g-turn และ grind ต่างๆ ฮ่าา พอเปลี่ยนมาเป็นเฟรม Street มันก็ง่ายเลยที่จะเล่นท่า Street ด้วย และ Flatland ไปด้วย

มีความฮึกเฮิม !!! หลังจากที่ผมได้เปลี่ยนเป็นเฟรมสตรีทวันแรก อยากจะลองเล่น Bar spin ดูมั่งเพราะว่าเป็นท่าที่ผมอยากจะเล่นมานานมากๆ แล้ว แต่ด้วยรถจักรยานคันเก่าของผมไม่ค่อยเอื้ออำนวยเท่าไหร่ พอได้คันนี้มาละ จัดเต็มเลย วันแรกที่ฝึก ผลคือ เจ็บสิครับ เล่นได้ท่าเดียว เลิกเลยครับ พักอีกหลายวัน ฮ่าาาาา

ตอนที่ผมเปลี่ยนจักรยานเป็นแนว Street แล้วก็อยู่ในช่วงมหาลัย แต่ยังดีที่มหาลัยของผม มีเพื่อนๆ พี่ที่เล่นจักรยานอยู่ด้วยเลยเข้าไปแจมด้วยเลย สังคมของคนปั่น bmx บอกได้เลยว่ามันไม่ได้กว้างมาก คนที่เล่นเลยรู้จักกันแทบจะทั้งหมด และคนที่ชอบอะไรที่เหมือนๆ กันมักจะไปด้วยกันได้ แต่ช่วงที่เรียนก็ได้เล่นบ้าง ไม่ได้เล่นบ้าง เพราะว่าอาจจะติดเรียนบ้าง แต่ผมก็ไม่ได้ทิ้งมันนะ ยังหาเวลาว่างมาปั่นอยู่เรื่อย [ผมเรียนอยู่คณะวิศวกรรมศาสตร์ ซึ่งอัดแน่นด้วยวิชาการ และกิจกรรมต่างๆ มากมาย เวลาสำหรับการปั่นจึงมีค่อนข้างจำกัด เพราะต้องจัดสัน แบ่งเวลาให้เรียน กิจกรรมคณะด้วย]

[adsense2]

เมื่อผมจบการศึกษา แน่นอนผมก็ยังต้องเอาสิ่งที่ผมรักมาถ่ายรูปยินดีกับการจบการศึกษาของผมด้วย เพราะจักรยานอยู่กับผมตลอด นอนยังนอนข้างๆ กันเลย เวลาที่ผมเครียดๆ อยากสบายใจ แค่จับจักรยานออกมาปั่นก็รู้สึกคลายเครียดแล้ว และอีกอย่าง “ผมรู้สึกเป็นตัวของตัวเอง เวลาที่ได้ปั่นจักรยาน”

ตอนนี้ผมยังปั่นจักรยานอยู่นะ เพียงแต่ว่ามีเวลาปั่นน้อยลงกว่าเมื่อก่อนมาก ผมตั้งใจว่าจะหาเวลา ปั่นไปเรื่อยๆ จนร่างกายไม่ไหว ถึงแม้ว่าผมจะปั่นไม่ได้ ผมก็ไม่คิดจะขายจักรยานของผมไปอย่างแน่นอน เหตุผลสำหรับคนที่รักจักรยานจริงๆ น่าจะรู้กันอยู่

ถ้าถามว่า จักรยานให้อะไรกับผมบ้าง ผมบอกเลยว่าจักรยานให้อะไรกับผมมากมาย ตั้งแต่ตอนเริ่มเล่นจนถึงตอนนี้ มันทำให้ได้รู้จักกับคนที่เหมือนๆ กัน รักในสิ่งเดียวกัน เพื่อนๆ พี่ ๆน้องๆ ของผมที่ปั่นจักรยาน มาจากหลายสายอาชีพ พอได้พบปะพูดกันแลกเปลี่ยนความรู้ซึ่งกันและกัน อีกอย่างผมอยากให้วงการ จักรยาน BMX บ้านเราพัฒนาขึ้นไปอีกเรื่อย ซึ่งผมอาจจะช่วยได้ไม่มาก นั่นก็คือการเขียนบทความเกี่ยวกับจักรยาน BMX ในประเทศไทยแทบจะไม่มี เมื่อเทียบกับต่างประเทศ แต่มันอาจจะช่วยเป็นแรงบันดาลใจให้กับคนที่มาอ่านบทความของผมได้มีแรงบันดาลใจในการปั่นจักรยาน

และผมยังอยากจะฝากไปถึงท่านผู้ใหญ่ หรือคนรุ่นใหม่ที่จะก้าวไปเป็นผู้หลักผู้ใหญ่ให้ความสำคัญกับกีฬาประเภทนี้บ้าง เช่นการให้สถานที่ฝึกซ้อม หรือการจัดงบประมาณทำอุปกรณ์การซ้อม นักกีฬาชนิดนี้ ยังขาดการสนับสนุนด้านสถานที่เป็นอย่างมาก ไม่ใช่ว่ากีฬานี้พึ่งจะเริ่มมีในไทย แต่มันเป็นกีฬาที่มีมานานแล้ว และคนไทยยังสามารถแข่งขันสู้กับในระดับนานาชาติได้อีกด้วย ซึ่งมีผลงานออกมาให้ได้เห็นอย่างมากมาย

สำหรับเพื่อน ที่อยากจะบอกเล่าเรื่องราวต่าง เกี่ยวกับจักรยาน เพื่อแบ่งปันประสบการณ์ หรือประชาสัมพันธ์ข่าวสารต่าง ผมและทีมงาน ยินดีที่ช่วยเหลือและสนับสนุนวงการ BMX ประเทศไทย ให้ดำเนินต่อไป

สามารถติดต่อมาได้ที่

facebook.com/weporjai